การศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ของการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจและศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยว ปัจจุบันมีการจัดให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆแก่นักเดินทาง การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนสามารถจะสืบย้อนไปถึงสมัยที่ยังมีอาณาจักรบาบิโลน (Babylonian)และอาณาจักรอียิปต์ (Egyptian) หลักฐานที่สนับสนุนคือ ได้มีการก่อตั้งพิพิธพัณฑ์โบราณ เมื่อประมาณ 2600 ปีมาแล้ว ชาวอียิปต์ก็มีการจัดงานเทศกาลทางด้านศาสนาซึ่งดึงดูดทั้งผู้ที่มีความเลื่อมใสและผู้ที่เพียงอยากมาชมตึกราม เมื่อมีคนมาเที่ยวชมจำนวนมากทำให้เกิดการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆที่เกิดขึ้น ส่วนนักท่องเที่ยวก็มีการเขียนข้อความไว้ที่ผนังพื่อแสดงหลักฐานการมาเยือน
นักท่องเที่ยวชาวกรีกมีการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวเมื่อประาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล ชาวกรีกจะนิยมเดินทางไปยังสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าที่ทำการบำบัดรักษาโรค เนื่องจากกรีกมีการปกครองในแบบนครรัฐ ( city state ) ที่เป็นอิสระต่อกัน นักท่องเที่ยวส่วนมากจึงเดินทางทางเรือ ในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล กรุงเอเธนส์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมสถานที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมสถานที่สำคัญ ชาวโรมันเดินทางอย่างกว้างขวางตั้งแต่ 3000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวโรมันในกรุงโรมนิยมเดินทางไปพักร้อนบนภูเขา ชาวโรมันเข้าครอบครองเมืองปอมเปอี เมื่อ 80 ปีก่อน จากการขุดค้นทางโบราณคดีทำให้ทราบว่าชาวโรมันละปอมเปอีมีความเจริญมั่งคั่งอย่างมากจึงสร้างบ้านเรือนขึ้นอย่างสวยงามและมีร่องรอยของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
สมัยโรมัน
ได้รวบรวมจักรวรรดิกรีก เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรและได้นำเอาวัฒนธรรม ธรรมเนียม ความหรูหราต่างๆไปพัฒนาเป็นแบบโรมัน สมัยโรมันเป็นสมัยที่การท่องเที่ยวรุ่งเรืองที่สุดในยุคโบราณ ชาวโรมันนิยมเดินทางไปชมความสำเร็จของวิทยาการของกรีกที่อนุสาวรีย์ต่างๆ รูปแกะสลัก ตลอดจนงานเทศกาล โครงสร้างพื้นฐานถูกสร้างอย่างเป็นระบบทั้งถนน ที่พักแรม ร้านอาหาร ตลอดจนการบริการความปลอดภัย
ยุคกลางคือช่วงที่อยู่ระหว่าง ค.ศ.500-1500 หรือเป็ฯช่วงที่ต่อจากการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ยุคกลางเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่ายุคมืด ช่วงเวลาดังกล่าวถนนหนทางถูกปล่อยให้ทรุดโทรมแต่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกยังคงเป็นศูนย์รวมของสังคมและอำนาจการเดินทาง วันหยุดเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้คน แต่สำหรับชาวคาทอลิกทั่วไปการหยุดเพื่อการพักผ่อน คือการหยุกพักจากงาน ไม่เดินทางไปไหนมาไหน คนชั้นสูงและคนชั้นกลางนิยมเดินทางเพื่อแสวงบุญ ปัญหาที่นักเดินทางในยุคกลางต้องเผชิญคือ โจรผู้ร้ายที่คอยดักปล้นนักเดินทางมัคคุเทศก์ในสมัยนั้นจึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำทางและเป็นผู้ปกป้องนักเดินทางด้วยมัคคุเทศก์ในสมัยนั้นจึงได้รับค่าจ้างสูง
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
ลักษณะสำคัญของการท่องเที่ยวในยุคนี้คือ เกิดการพัฒนาการด้านการค้า ผู้คนเริ่มใฝ่รู้เกี่ยวกับเรื่องของยุโรปสมัยก่อน โดยเฉพาะชาวอังกฤษที่ร่ำรวยนิยมส่งบุตรชายออกเดินทางไปต่างประเทศพร้อมกับผู้สอนประจำตัว (Travelling Tutors) เป็นระยะเวลา 3 ปี เรียกว่า แกรนด์ทัวร์ Grand Tour โดยมีจุดมุ่งหมายที่ประเทศอิตาลี
เราอาจเรียกแกรนด์ทัวร์ว่าเป็นการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา
Colosseum ณ กรุงโรม Italy
Stonehenge
The Hagia Sophia
The Porcelain Tower of Nanjing China
The Leaning Tower of Pisa
The Great Wall of China
สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18-19
ในมัยนี้สังคมเริ่มเปลี่ยนจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรม เกิดการล่าอาณานิคมขึ้น ที่พักแรมได้รับการพัฒนาตามลำดับกลายเป็นโรงแรม การโยกย้านถิ่นฐานไปยังดินแดนใหม่ๆนอกยุโรป มีการพัฒนาประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำกับเรือกลไฟแบบกังหันข้างผสมใบทำให้เกิดการเดินทางได้เร็วขึ้น มีการพัฒนากิจการรถไฟและในปี ค.ศ.1841 Thomas Cook
ได้จัดนำเที่ยวทางรถไฟแบบครบวงจรเป็นครั้งแรกที่อังกฤษ
ยุคศตวรรษที่ 20
การท่องเที่ยวยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความสะดวกสบายมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ที่พักแรม เงินตรา เอกสารการเดินทาง ผู้คนหันมานิยมการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟน้อยลง มนช่วงหลังสงครามโลก ผู้คนมักออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางการสงคราม
แหล่งท่องเที่ยว
Angkor Wat
The Empire State Building
Taj Mahal
วิวัฒนาการท่องเที่ยวของไทย
สมัยสุโขทัย
การเดินทางเป็นไปอย่างอิสรเสรี โดยส่วยมากเป็นไปเพื่อการค้าขายและทางศาสนา ส่วนมากเป็ฯการเดินทางภายในประเทศเท่านั้น
สมัยอยุธยา
ระบบสังคมเป็นแบบศักดินา ผู้คนไม่ค่อยมีอิสระในการเดินทางเพื่อการพักผ่อน นอกจากไปเพื่อการค้าเล็กๆน้อยๆ ปรับปรุงด้านคมนาคมขนส่ง ทางน้ำ ทางบก เพื่อการค้าและการเดินทาง การเดินทางในสมัยอยุธยามักจะเป็นกลุ่มคนที่อยูในชนชั้นปกครอง เกิดความเป็นนานาชาติมากขึ้น ผสมผสานด้านวัฒนธรรมประเพณีต่างๆระหว่างตะวันตกและไทย
อ้างอิง
ขอบคุณภาพสวยๆจาก http://www.wikimedia.org/ และ http://www.tajmahal-luchtruck.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น