การท่องเที่ยวในปี พ.ศ.2506 ต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการตามข้อตกลงการประชุมขององค์การสหประชาชาติ คือ
1.การเดินทางจากที่อยู่อาศัยปกติไปยังที่อื่นชั่วคราว
2.การเดินทางด้วยความสนใจ
และให้คำนิยามของผู้ที่เดินทางว่า ''ผู้เยี่ยมเยือน'' โดยผู้เยี่ยมเยือนแบ่งออกเป็น
ผู้มาเยือนชั่วคราว พัก ณ สถานที่นั้นไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง โดยส่วนมากจะเป็นพวก ผู้โดยสารเรือสำราญ และผู้ที่มาเยือนและจากสถานที่นั้นไปภายในวันเดียว รวถึงผู็ที่เปนลูกเรือซึ่งแวะมาพักเพียงชั่วคราวน้อยคกว่า 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ผู้มาเยือนตามถิ่นพำนักสาารถแบ่งได้เป็น
- ผู้มาเยือนขาเข้า ( inbound visitor ) คือ ผู้มาเยือนที่มีถิ่นอาศัยในต่างประเทศและเดินทางเข้ามาเที่ยวอีกประเทศ
- ผู้มาเยือนขาออก ( outbound visitor ) คือ ผู้มาเยือนที่มีถิ่นอาศัยในประเทศหนึ่งและเดินทางไปเที่ยวอีกประเทศหนึ่ง - ผู้มาเยือนในประเทศ ( domestic visitor) คือ ผู้มาเยือนที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่
ในการท่องเที่ยวมีวัตถุประสงค์หลายอย่าง รวมถึงวัตถุประสงค์ที่ทำให้การเดินทางไม่ใช่การท่องเที่ยว ก็คือ การเดินทางเพื่อประกอบอาชีพและหารายได้ เพราะฉะนั้นวัตถุประสงค์ของการท่องเที่ยวจึงแบ่งออกได้ดังนี้
2) เพื่อธุรกิจ
การเดินทางประเภทนี้เปนการเดินทางควบคู่ไปกับการทำงานแต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแระกอบอาชีพหรือหารายได้ การเดินทางเพื่อธุรกิจนี้รวมไปถึงการเข้าร่วมประชุม การสัมมนา การจัดนิทรรศการ การสำรวจตลาด และการจัดแสดงสินค้า
การประชุมสัมมนาคณะบริหาร
แบ่งตามสากล แบ่งโดยใช้ประเทศกำหนด ได้แก
1. การเที่ยวภายในประเทศ ( Domestic Tourism ) คือ ผู้ที่เที่ยวในประเทศที่ตนอาศัยอยู่
2. การเที่ยวเข้ามาในประเทศ ( Inbound Tourism ) คือ ผู้ที่อาศัยอยู่ที่อื่น แต่เดินทางเข้ามาเที่ยวในอีกประเทศหนึ่ง
3. การเที่ยวนอกประเทศ ( Outbound Tourism ) คือ ผู้ที่อาศัยอยู่ประเทศหนึ่งแต่เดินทางออกไปเที่ยวยังต่างประเทศ แบ่งตามลักษณะการจัดการเดินทาง
1) การท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ ( Group Inclusive Tour : GIT )
การท่องเที่ยวแบบนี้แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ กรุ๊ปเหมา และ กรุ๊ปจัด
- กรุ๊ปเหมา คือ การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มีความสัมพัธ์กัน ทั้งด้านการงานและส่วนตัว
- กรุ๊ปจัด คือ การเดินทางที่นักท่องเที่ยวที่ไม่มีความสัมพันธกัน แต่ต้องการจะไปเที่ยวยังสถานที่เดียวกัน
2) การท่องเที่ยวแบบอิสระ (Foreign Indivdual Tourism : FIT )
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักจะเดินทางตามลำพัง และอาจวางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง
แบ่งตามวัตถุประสงค์พิเศษ
1. เพื่อความเพลิดเพลินและพักผ่อน เช่น การเล่นน้ำทะเล นั่งรถชมเมือง ซื้อของ ชมวิว
2. เพื่อธุรกิจ
3. เพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ กิจกรรมที่เกิดขึ้นจะมีความซับซ้อนและเป็นระบบ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
- การท่องเที่ยวนิเชิงนิเวศ เช่น การดูนก เดินป่า เป็นต้น
- ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและกีฬา เช่น การปีนเขา การอาบน้ำแร่
- ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม
- ท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสชาติพันธุ์และวัฒนธรรมท้องถิ่น
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว หมายถึง ธุรกิจท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยแรงงาน การลงทุน เทคนิควิชาชีพเฉพาะ มีการวางแผน การจัดองค์กร และการตลาด อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะมีองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ประการ คือ
1. องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนักท่องเที่ยว 2. องค์ประกอบที่สนับสนุนกิจกรรมทางการท่องเที่ยว
องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนักท่องเที่ยวโดยตรง แบ่งออกได้ดังนี้
- สิ่งดึงดูดใจ
- ธุรกิจที่พักแรม
- ธุรกิจร้านอาหาร
- ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
องค์ประกอบที่สนับสนุนกิจกรรมทางการท่องเที่ยว แบ่งได้ดังนี้
- ธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึก
- ธุรกิจการประชุม สัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็ฯรางวัล และการจัดนิทรรศการ
- การบริการข่าวสารข้อมูล
- การอำนวยความสะดวกทางด้านความปลอดภัย
ความสำคัญของการท่องเที่ยว
ทางด้านเศรษฐกิจ ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ ทำให้เกิดการกระจายตายได้ไปสู่ท้องถิ่น นำทรัพยากรมาใช้อย่างคุ้มค่า และการท่องเที่ยวยังช่วยเศรษฐกิจในเรื่องการลดปัญหาว่างงาน
ด้านสังคมและวัฒนธรรม มีส่วนช่วยในการฟ์้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้สังคมรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ช่วยยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม และช่วยส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์อันดีของมวลมนุษยชาติ
ด้านการเมือง ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และ ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแกประเทศ
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น